การสกัดแต่ละวิธีนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ต้องการและวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ต่อ ส่วนเปลือกมังคุดมีสารสำคัญคือสารในกลุ่มแทนนิน และแซนโทน ซึ่งวิธีการสกัดแบบง่ายตาม คือ
1. การสกัดด้วยน้ำร้อน โดยต้มเปลือกมังคุดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแห้งกับน้ำสะอาดจนเดือด ตั้งทิ้งไว้จนน้ำงวดเหลือ 1 ใน 3 ส่วน จากนั้นกรองเอาเฉพาะส่วนของน้ำที่ได้ไปใช้ต่อ ซึ่งสารสกัดที่ได้จากการสกัดนี้จะเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอลและแทนนินละลายน้ำได้
2. การสกัดแซนโทนด้วยเอทานอล 95% การสกัดด้วยเอทานอล 95% นำเปลือกมังคุดมาหั่นให้มีขนาดเล็กพอประมาณ จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น นำผงที่ได้ไปวางบนผ้าขาวบางเพื่อนำไปทำให้แห้งด้วยการอบที่อุณหภูมิ 60 องศาหรือตากแดด เมื่อแห้งดีแล้วนำเปลือกมังคุดมาสกัดโดยใช้อัตราส่วนเปลือกมังคุดต่อเอทานอล คือ 1:5 กวนส่วนผสมด้วยแท่งแก้วคนอย่างช้าๆ จากนั้นปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันการระเหยออกของเอทานอล โดยเปิดกวนส่วนผสมทุก 30 นาที เมื่อครบ 2 ชม. กรองสารสกัดที่ได้ผ่านกระดาษกรองเบอร์ 4 แล้วเก็บเฉพาะสารสกัดที่กรองได้ไปใช้ต่อ ส่วนกากที่เหลือสามารถนำมาสกัดซ้ำด้วยวิธีการเดิมจนครบ 3 ครั้ง จากนั้นนำสารสกัดที่กรองได้ทั้ง 3 ครั้งมารวมกัน แล้วนำไประเหยเอาตัวทำลายลายออกด้วยการนำไปตั้งบนลังถึง (ห้ามตั้งไฟโดยตรง) จนเอทานอลระเหยออกหมด จนเหลือสารสกัดสีเหลืองแห้งและเหนียว ซึ่งสารสกัดที่ได้สามารถนำไปส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้
สำหรับเอทานอล 95% และกระดาษกรองสามารถหาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป หรือเปลี่ยนเป็นเอทานอล 70% หรือเหล้าขาวได้ตามความเหมาะสมค่ะ
1. การสกัดด้วยน้ำร้อน โดยต้มเปลือกมังคุดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแห้งกับน้ำสะอาดจนเดือด ตั้งทิ้งไว้จนน้ำงวดเหลือ 1 ใน 3 ส่วน จากนั้นกรองเอาเฉพาะส่วนของน้ำที่ได้ไปใช้ต่อ ซึ่งสารสกัดที่ได้จากการสกัดนี้จะเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอลและแทนนินละลายน้ำได้
2. การสกัดแซนโทนด้วยเอทานอล 95% การสกัดด้วยเอทานอล 95% นำเปลือกมังคุดมาหั่นให้มีขนาดเล็กพอประมาณ จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น นำผงที่ได้ไปวางบนผ้าขาวบางเพื่อนำไปทำให้แห้งด้วยการอบที่อุณหภูมิ 60 องศาหรือตากแดด เมื่อแห้งดีแล้วนำเปลือกมังคุดมาสกัดโดยใช้อัตราส่วนเปลือกมังคุดต่อเอทานอล คือ 1:5 กวนส่วนผสมด้วยแท่งแก้วคนอย่างช้าๆ จากนั้นปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันการระเหยออกของเอทานอล โดยเปิดกวนส่วนผสมทุก 30 นาที เมื่อครบ 2 ชม. กรองสารสกัดที่ได้ผ่านกระดาษกรองเบอร์ 4 แล้วเก็บเฉพาะสารสกัดที่กรองได้ไปใช้ต่อ ส่วนกากที่เหลือสามารถนำมาสกัดซ้ำด้วยวิธีการเดิมจนครบ 3 ครั้ง จากนั้นนำสารสกัดที่กรองได้ทั้ง 3 ครั้งมารวมกัน แล้วนำไประเหยเอาตัวทำลายลายออกด้วยการนำไปตั้งบนลังถึง (ห้ามตั้งไฟโดยตรง) จนเอทานอลระเหยออกหมด จนเหลือสารสกัดสีเหลืองแห้งและเหนียว ซึ่งสารสกัดที่ได้สามารถนำไปส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้
สำหรับเอทานอล 95% และกระดาษกรองสามารถหาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป หรือเปลี่ยนเป็นเอทานอล 70% หรือเหล้าขาวได้ตามความเหมาะสมค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น